เดือนสุดท้ายของปี 2559 ได้รับโอกาสที่ดีอีกครั้ง ที่ได้เดินทางไปร่วมประชุมงาน Open Government Summit ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 - 9 ธ.ค. แต่แน่นอนว่าเดินทางไกลขนาดนี้ คงต้องหาโอกาสตะลุยยุโรปในส่วนที่ไม่เคยไป

ครั้งนี้ไม่มีภารกิจอะไร เลยวางแผนใช้เวลา 2 สัปดาห์เต็ม ๆ เพื่อเที่ยวยุโรปตอนใต้ เส้นทาง ปารีส-ตูลูส-โรม-ฟอร์เร้น หลังจากงานประชุมและพบปะกลุ่มกิจกรรมด้าน OpenData และ Civic Tech ผมไม่ได้วางแผนเที่ยวอะไรมากในปารีส เพราะมาครั้งก่อนก็ได้ไปหลายที่อยู่ ครั้งนี้เลยมีที่ๆ ตั้งใจไปที่เดียวคือแวร์ซายน์ แต่กลับเป็นว่าที่ปารีสผมอยากไปเยี่ยมรุ่นพี่ที่ผมเคารพคนหนึ่งมากกว่า รุ่นพี่คนนี้ประสบปัญหาด้านการเมืองในประเทศทำให้ต้องไปอยู่ปารีส แกเคยเป็นอดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ครับผมหมายถึง อ.จรัล ดิษฐาอภิชัย หากข้ามเรื่องอุดมการณ์การเมือง อ.จรัล เป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก ใจดี เสมอต้น เสมอปลาย ไว้ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ครั้งนี้ อ.จรัล พาไปเดิมชมเมืองปารีส แถวโบสถ์ขาว กับย่านมหาวิทยาลัยปารีส หรือ Sobonne แล้วจบที่ place de la concorde จุดพีคของการปฏิวัติฝรั่งเศส ดีใจที่ได้เจอ และถามไถ่ สารทุก สุขดิบ ของคน และบ้านเมือง หลังจากนั้นตกเย็น คือสี่โมงเย็นนี้ก็เริ่มมืดแล้ว ก็เดินเล่นจาก Champ Elysee และข้ามไปฝั่งตรงข้าม เดินริมแม่น้ำไปเรื่อย ๆ จะถึงสะพาน inception

อีกวันนึงไปตะลุยแวร์ซายน์ ปราสาทยิ่งใหญ่ ตัวแทนรัฐกษัตริย์สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งร่วมสมัยกับสมเด็จพระนาราย์ และฑูตโกษาปานเคยมาเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแห่งนี้ด้วย ซึ่งขณะที่เราแทบนึกไม่ออกว่าอยุธยาหน้าตาจริง ๆ เป็นอย่างไร แต่แวร์ซายน์ยังตั้งตระหง่านให้เราดูถึงทุกวันนี้ แน่นอนว่าอลังการณ์งานสร้างสไตล์หลุยส์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนอย่างที่เราได้เห็น ๆ รูปกัน ข้อดีของการมาเดือนธันวาคือ คนเข้าชมไม่เยอะมาก เดินเข้าไป ซื้อตั๋ว แล้วเข้าดูเลย

วันที่ 12 เดินทางออกจากปารีสด้วยรถไฟ TGV ลงใต้ไปตูลูส เมืองนี้แน่นอนว่าเป้าหมายคือ Airbus เคยไปเยี่ยมบ้าน Boeing ที่ Everett มาฝรั่งเศสจะพลาดถิ่น Airbus ได้ยังไง TGV ถึงเราจองที่นั่งมา แต่เอาเข้าจริงเข้าก็ไม่ซีเรียสอะไรหากนั่งถูกชั้น นั่นคือไม่เนียนไปนั่งชั้น 1 เพราะพอขึ้นไปก็พบว่ามีคนนั่งที่ ๆ เราจองอยู่แล้ว ตอนแรกทำจริงจังบอกเขาว่าตรงนี้เรานั่ง แต่ก็รู้สึกว่าเราเองน่าจะประหลาด เลยไปหาที่นั่งว่าง ๆ ที่อื่น เดินทาง 6 ชั่วโมง ดูวิวรายทางมาเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นไร่องุ่น

เย็นวันแรกที่ตูลูสคือการเดินชมเมือง ตูลูสเป็นเมืองที่สวย มีความเจริญมาตั้งแต่ยุคกลาง เมืองออกสีส้ม ๆ วันแรกจบลงที่จุด highlight ริมแม่น้ำ และร้านสเต็กฝรั่งเศสชื่อดังประจำตูลูส ต่อวันที่ 2 คือวันที่ 13 วันนี้ถือว่าเป็นวันแห่งการบินและอวกาศของทริปนี้ เช้านั่ง Tram สาย T1 ไปสุดสาย ตะลุยพิพิธภัณฑ์การบินของ Airbus ท่ามกลางอากาศ 0 องศาและสายหมอก ก็พบกับ Concord และ M400 จอดตระหง่านอยู่หน้าพิพิทธภัณฑ์ จิบกาแฟอุ่น ๆ จากเครื่องอัตโนมัติ แล้วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ โชคดีมาก ไม่มีคน ในอาคารพิพิธภัณฑ์มีของเด็ด ๆ อย่าง Super Gabby, A300B เครื่องแรก และ Concord เครื่องแรกที่ใช้ทดสอบ ถือว่าเป็น raw item ของวงการการบินยุโรปทั้งสิ้น ดูจนจุใจ ไม่มีคน เดินทะลุลำนี้ ออกลำนั้น อยากดูมุมไหน ถ่ายรูปมุมไหนสบายมาก

กว่าจะออกมาจากพิพิทธภัณฑ์ Airbus ก็เข้าช่วงบ่าย นั่ง Tram มาต่อรถใต้ดิน แล้วต่อรถเมล์ ที่ตูลูสระบบขนส่งเป็นระบบแบบเบาทั้งหมด รถไฟใต้ดินเป็นรถล้อยาง มีที่นั่งฝั่งเดียว อีกฝั่งยืน คล้ายกับระบบขนส่งในสนามบิน ถึงพิพิธภัณฑ์อวกาศของตูลูสก็เห็นจรวด Airane จำลองตั้งตระหง่านอยู่ มีเวลาดูประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ที่นี่เน้นแสดงเทคโนโลยีด้านจรวด และดาวเทียม ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าของเทคโนโลยีร่วมกับประเทศในสหภาพยุโรปในนาม ESA แสดงเครื่องยนต์และแบบจำลองจรวด Airane รุ่นต่าง ๆ รุ่นล่าสุดคือ Airane 6 และส่วนดาวเทียม เน้นดาวเทียมสำรวจ และเทคโนโลยี remote sensing ที่ฝรั่งเศสก้าวหน้าเรื่องนี้อยู่มาก แต่เนื้อหาโดยรวมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ไม่หนีไปจาก Space Inspirium ของ Gistda ที่ศรีราชามากนัก ไม่ต้องมาไกลถึงตูลูสก็ได้ จบวันนี้ด้วยการซื้ออะไรง่าย ๆ ที่สถานีรถไฟไปกินตอนเย็น ได้ผัดหมี่กุ้งมาฝีมือร้าน Blue Elefant ไม่แน่ใจว่าเป็นร้านเดียวกัยที่สาทรรึเปล่า

วันรุ่งขึ้น เก็บข้าวของจาก Airbnb แล้วมุ่งไปสนามบิน Toulouse เพื่อนั่ง Easyjet ไป Rome ได้เห็น A350-1000 แบบไกล ๆ อนาคตเราคงเห็นมันเยอะพอ ๆ กับ B777 ในทุกวันนี้

อ่านต่อ Europe trip 2016 Rome-Florence http://klaikong.in.th/post/europe-trip-2016-rome-florence