21 ก.พ. 66 ครบ 3 ปีของการยุบ #พรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 10 ปี หลายคนถามผมส่วนตัวว่ารู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าความรู้สึกทันทีที่โดนตัดสินยุบพรรค และตัดสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้ง 10 ปี คือความผิดหวัง คล้ายอกหัก เกิดขึ้นในช่วงแรก ๆ คงเพราะแผนชีวิตที่วางไว้เรื่องการทำงานการเมืองในขณะนั้นต้องสลายไป แต่อย่างไรก็ตามจิตใจอีกด้านหนึ่งก็เตรียมพร้อมรับกับความไม่แน่นอนที่จะเข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่เริ่มต้นตัดสินใจเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่กับ #ธนาธร

22 ก.พ. 63 จึงกลายเป็นวันแรกที่ผมเริ่มทำงานการเมืองอีกครั้งในนาม #คณะก้าวหน้า โดยมีเพื่อนที่ยังสามารถทำงานในสภาผู้แทนได้เดินทางไปในนาม #พรรคก้าวไกล เป็นการเดินทางอีกครั้ง ซึ่งการทำงานกับคณะก้าวหน้า เป็นการเดินทางจริง ๆ เดินทางลงพื้นที่ในท้องถิ่นต่าง ๆ อย่างหนักหน่วง ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายท้องถิ่น ตั้งแต่การเริ่มทำนโยบายเพื่อการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายกเทศมนตรี จนกระทั้งระดับ อบต. ถือเป็นการเรียนรู้การทำงานท้องถิ่น ที่มีคุณค่ามาก ในช่วง 3 ปี นโยบายจากการลงพื้นที่ท้องถิ่นต่าง ๆ สามารถทำให้เกิดขึ้นจริง เช่น น้ำประปาสะอาดดื่มได้ การจัดการขยะต้นทาง การท่องเที่ยวชุมชน การพัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัย เทศกาลที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารท้องถิ่น และล่าสุด หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกับ ส.ก. ก้าวไกลก็มีประเด็น การพัฒนาเมือง การบริการขนส่งสาธารณะ เกิดขึ้นด้วย

ในทางโครงสร้าง คณะก้าวหน้า ได้ร่วมรณรงค์ในการแก้เข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งแคมเปญที่ร่วมกับภาคประชาชนอื่น ๆ ทั้งเรื่องให้เป็นรัฐสภาเป็นสภาเดี่ยวแคมเปญรณรงค์ "รื้อระบอบประยุทธ์" และ การรณรงค์เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นหรือที่เรียกกันว่า "ปลดล็อกท้องถิ่น"

เพื่อน ๆ ในพรรคก้าวไกล ต่างยังทำงานอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะได้การตรวจสอบการทำงานของรัฐด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างตรงไปตรงมาในรัฐสภา การตรวจสอบการใช้อำนาจ เส้นสาย ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ของฐานอำนาจปัจจุบัน ทั้งเรื่องตั๋วช้าง และ ทุนจีนสีเทา รวมทั้งหลายเรื่อง ที่ปรากฏผลงานในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลาย ๆ ครั้ง งานในกรรมาธิการที่พรรคก้าวไกล นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ทั้งกรรมาธิการแรงงาน ที่เข้าช่วยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศได้หลายชีวิต กรรมาธิการที่ดิน ที่เดินทางไปทั่วประเทศรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน แล้วนำมาแก้ปัญหา กรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เสนอกฎหมายเรื่องการมีส่วนร่วมต่าง ๆ ในพิจารณาในสภาผู้แทนฯ หลายฉบับ กรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่นำเอาข้อมูลเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศนำมาให้ประชาชนได้รับทราบอย่างสม่ำเสมอ

พรรคก้าวไกลยังเสนอกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรหลายฉบับ ไม่เพียง "สุราก้าวหน้า" หรือ "สมรสเท่าเทียม" เท่านั้น กฎหมายเช่น พ.ร.บ. การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 ที่ทำให้เราสามารถรณรงค์เข้าชื่อเสนอกฎหมายทางออนไลน์ได้ในทุกวันนี้ ส.ส.วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล คือผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายนี้ ยังไม่นับกฎหมายอีกหลายฉบับที่ถูกประยุทธ์ ตีตกในฐานะ พ.ร.บ. การเงิน เช่น พ.ร.บ.แรงงาน เป็นต้น

ที่สำคัญพรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมือง ที่ยืนเคียงข้างการต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตย ของเยาวชนคนรุ่นใหม่มาตั้งแต่เริ่มต้น

ที่น่าดีใจคือ เรื่องที่เกิดจากการทำงานในท้องถิ่น ได้ถูกส่งต่อมาเป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคก้าวไกล อย่างเช่น การเสนอ พ.ร.บ. น้ำประปาดื่มได้ ซึ่งจะเสนอสภาในทันที ในวันแรกที่เปิดสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้น 3 ปีที่ผ่านมา จึงเป็น 3 ปีแห่งการเรียนรู้ที่มีคุณค่ามากของชีวิตการทำงานของผม ยังไม่มีอะไรน่าเสียใจ หรือ เสียดาย ทั้งยังได้เห็นการเติบโต ของเพื่อน ๆ ที่เข้ามาทำงานการเมืองในครั้งแรกในชีวิตเช่นเดียวกับผม ตั้งแต่ พรรคอนาคตใหม่ จนเป็นคณะก้าวหน้า และ พรรคก้าวไกล ซึ่งต่อจากนี้คณะก้าวหน้า จะใช้สถานะเป็นมูลนิธิคณะก้าวหน้า ทำงานด้านสาธารณะประโยชน์ในด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย และ การพัฒนาท้องถิ่น ส่วนทางการเมืองเชื่อว่าพรรคก้าวไกล จะเติบโตกว่านี้ได้ และ เอาชนะความท้าทายในทางการเมืองต่าง ๆ เพื่อยืนหยัดในฐานะพรรคการเมืองหลัก ที่ทำงานเป็นความหวัง เป็นพลังใหม่ นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทย

เครดิตภาพ : https://themomentum.co/numbers-of-mp-after-future-forward-party-disbanded/