Free and Open Source Software คืออะไร บางคนอาจจะนึกแค่ว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือ แอพลิเคชั่นที่ใช้งานได้ฟรี แต่จริงๆ ไม่ใช่แค่นั้น Open Source Software คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น โดยเปิดเผยรหัสการเขียน หรือที่เรียกว่าซอร์สโค๊ดเพื่อที่โปรแกรมเมอร์คนอื่นสามารถนำซอร์สโค๊ดนี้ไปใช้งานต่อ หรือ เขียนโปรแกรมเพิ่มเติมได้ แต่เมื่อมีการพัฒนาต่อ โปรแกรมเมอร์คนนั้นต้องนำซอร์ซโค๊ดส่วนที่เขียนเพิ่มเติมมาเปิดเผยให้คนอื่นสามารถใช้ต่อไปได้

บางที่ใส่คำว่า Free นำหน้า คำนี้คือ Freedom หรือ เสรี เพื่อขยายว่าซอร์ซโค๊ด หรือ โปรแกรมตัวนี้สามารถนำไปใช้ได้อย่างเสรีนั้นเอง

เรื่องนี้เป็นผลดีอย่างไร ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ส่วนที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ทำให้เกิดสมาร์ทโพนราคาถูก และการพัฒนาแอพลิเคชั่นที่แพร่หลายบนแพลทฟอร์มแอนดรอยด์ เป็นต้น

ที่นี้กลับมาที่งาน Open Tech Summit Thailand ครั้งนี้นอกจากมี session ต่าง ๆ ร่วมกันกับทาง FOSSASIA แล้ว ยังได้พูดคุยกันถึงโอกาส ที่จะขยายชุมชนโอเพ่นซอร์ส เรื่องที่น่าสนใจคือการรวมตัวกันทำ Open Research ซึ่งทำให้นักวิจัย สามารถมีส่วนช่วยกันทำงานวิจัยให้สำเร็จ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส และ เมื่องานเสร็จก็เปิดเผยผลวิจัยต่อสาธารณะ ที่นักวิจัยคนอื่นสามารถนำไปต่อยอดได้ รวมทั้งข้อมูลจากงงานวิจัยก็เปิดเป็น Opendata

ส่วนที่สำคัญของการขยายชุมชนโอเพ่นซอร์สคือ นักพัฒนาซอร์ฟแวร์ ซึ่งประเทศไทยยังขาดแคลนคนด้านนี้จำนวนมาก ซึ่งวันนี้แม้จะมีการสอน coding ในโรงเรียนแล้ว แต่โปรแกรมเมอร์จะพัฒนาได้ควรจะต้องมีจิตใจที่จะแบ่งบันความรู้กับเพื่อนโปรแกรมเมอร์ด้วยกัน ดังนั้นการทำงานแบบโอเพ่นซอร์สก็คือการที่โปรแกรมเมอร์แบ่งปันความรู้ให้กับเพื่อนคนอื่น ๆ ในชุมชน Open Tech Summit Thailand มีกลุ่มที่เรียกว่า CoderDojo Thailand

มาร่วม โดยกลุ่มนี้ขับเคลื่อนโดย พ่อ แม่ และ เด็ก ๆ ที่อยากเรียนรู้ coding แบบพี่ สอนน้อง เพื่อนสอนเพื่อน และเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน ทุกคนมีโปรเจคโอเพ่นซอร์สของตัวเอง ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าเราจะเห็นโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ จากกลุ่มนี้แน่นอน

อีกกลุ่มนึงคือ ก้าว-Geek ที่เริ่มทำโครงการโอเพ่นซอร์สซอฟแวร์ เพื่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง การกำลังหาผู้ที่จะมาร่วมพัฒนาโครงการต่าง ๆ ไปด้วยกัน มีโครงการอะไรบ้างลองเข้าไปดูที่ https://kaogeek.dev หรือ github.com/kaogeek

การต่อยอดเทคโนโลยี คงไม่ใช่เป็นการทำงานใน lab อย่างเดียว งาน meet up ในลักษณะที่ไม่เป็นทางการแต่มีความสนใจร่วมกัน และ ไม่จำกัดในเรื่องความรู้และประสบการณ์ของคนที่จะมาร่วมกิจกรรม ก็จะทำให้เกิดแนวคิดในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ หรือ ทำให้เทคโนโลยีตอบโจทย์ของสังคมมากขึ้น

ไกลก้อง ไวทยการ

21 มี.ค. 64