สรุปการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ และ วันพฤหัส ที่ 10 - 11 ก.ค. 62

ผมอยากจะขอสรุป การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ และ วันพฤหัส ที่ 10 - 11 ก.ค. 62


วันพุธเป็นการเริ่มใช้ระบบการปรึกษาหารือใหม่ ตามข้อตกลงของวิปทั้งสองฝ่าย โดยให้ฝ่ายค้าน และ ฝ่ายรัฐบาลฝั่งละ 15 คน ได้นำปัญหาในพื้นที่ หรือ ปัญหาอื่น ๆ มาปรึกษาหารือในสภา เพื่อให้สภาส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป

ประเด็นสำคัญของวันพุธ คือ การพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อบังคับการประชุม มีความสำคัญ เพราะสภาผู้แทนฯ ที่มีผู้แทน 500 คน การประชุมจึงต้องมีระเบียบวิธี เพื่อที่จะทำให้คนทั้ง 500 คนประชุมร่วมกันได้

เนื้อหารวมๆ ของข้อบังคับ บอกว่า เราจะเลือกประธานที่ประชุมอย่างไร เราจะตั้งหัวข้อการประชุมอย่างไร อภิปรายอย่างไร มีกรรมธิการ เพื่อให้สภาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในประเด็นไหนบ้าง และ ระเบียบของสภา

พรรคอนาคตใหม่มี อาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง นำทีมกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรค 6 ท่าน ในการร่างข้อบังคับการประชุมฯ

ตรงนี้ต้องขอบอกว่า ข้อถกเถียงเรื่องเครื่องแต่งกาย หรือ การใช้ภาษาถิ่น ผมบอกว่าสภาใช้เวลาพูดเรื่องนี้รวมกันไม่เกิน 30 นาที ในระยะการพิจารณาเรื่องข้อบังคับ 3-4 ชั่วโมง แต่นั้นแหละครับ ประเด็นสีสัน สร้างดราม่า ย่อมเป็นข่าวได้ง่าย

ประเด็นที่ใช้เวลาพูดกันมาก คือเรื่องการตั้งกรรมมาธิการ และ อำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ

ส่วนเรื่องที่ใหม่สุดๆสำหรับร่างข้อบังคับการประชุม คือ การถาม-ตอบกระทู้ สามารถแยกห้องออกมาได้ ไม่ต้องรอตอบในที่ประชุมสภาใหญ่

ช่วงท้ายของการประชุม ที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันว่า จะตั้งกรรมาธิการพิจารณาข้อบังคับเต็มสภา หรือ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งจริงๆ วิปทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วว่าจะตั้ง กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาข้อบังคับเต็มสภา เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว แต่ประธานสถาฯ เห็นว่า อาจจะสร้างปัญหาได้ถ้ามีผู้ขอแปรญัตติ แล้วต้องใช้ที่ประชุมใหญ่โหวตที่ละข้อ จะกลายเป็นใช้เวลามากกว่า กรรมาธิการวิสามัญ

สุดท้ายจบลงที่สภาลงมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ในช่วงเช้าวันพฤหัส

วันพฤหัส ผมได้ใช้เวลา 2 นาที เพื่อหารือ ปัญหาการอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์ ในจังหวัดนนทบุรี


หลังจากลงมติตั้งกรรมาธิการพิจารณาข้อบังคับฯ แล้ว ที่ประชุมพิจารณาญัตติด่วน เรื่องการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนออกไป 30 ปี เรื่องนี้มีประเด็นคือ การทางพิเศษจะทำการต่อสัญญาให้ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ไปอีก 30 ปี ( เอกสารประกอบ http://dl.parliament.go.th/handle/lirt/548563 ) เพื่อที่จะชดเชยกับค่าปรับ (ค่าโง่) แต่ประโยชน์ที่รัฐจะเสียไปนั้นมากกว่า 100 เท่า รายละเอียดสามารถดูได้จากคลิปอภิปรายของอาจารย์สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ

เรื่องทางด่วน สภาฯ ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการต่ออายุสัมปทานทางด่วน พรรคอนาคตใหม่เป็นกรรมาธิการ 6 ท่าน

ปิดท้ายด้วย คือ ญัตติด่วน เรื่องรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และ EEC ซึ่งคุณวันนอร์ จากพรรคประชาชาติเป็นผู้เสนอ ( เอกสารประกอบ http://dl.parliament.go.th/handle/lirt/548904 )
#ประชุมสภา วันที่ 10 - 11 ก.ค. 62