
ช่วงหยุดยาววันเข้าพรรษา มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ไม่ได้มานานกว่า 5 ปี มาเที่ยวนี้พิพิธภัณฑ์อู่ทอง แปลงโฉมใหม่ โดยรีโนเวทอาคารที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 และห้องจัดแสดง จากการจัดแสดงโบราณวัตถุ มาเป็นการใช้เทคโนโลยี เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของดินแดนสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะสมัยทวารวดี ที่รุ่งเรืองในช่วงปี พ.ศ. 1101 – 1600 โดยพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองโบราณอู่ทอง ซึ่งมีการขุดค้น พบโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก

การจัดแสดงเริ่มจากการฉาย VDO wall เรื่องราวของสุวรรณภูมิ ที่เป็นศูนย์การการค้า ต่อมาที่ดูจะเป็นไฮไลท์ของการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ คือ การฉายภาพลงบนโมเดลพื้นที่ของเมืองโบราณอู่ทอง เมืองการค้าที่ตั้งอยู่บนที่ราบริมแม่น้ำจรเข้สามพัน แสดงจุดที่มีโบราณสถานที่สำคัญ จากนั้นเป็นการจัดแสดงโบราณวัตถุ ชั้นสองเป็นการแสดงนิทรรศการการเข้ามาของชนชาติต่าง ๆ ผ่านการค้าทางเรื่อง มีเรือโบราณจำลองห้องสินค้า ให้ผู้เข้าชมเห็นถึงการแลกเปลี่ยนสินค้ายุคพันปีที่แล้ว
ชั้นสองนี้ยังมีอาคารอีกปีก ที่แสดงโบราณวัตถุที่สำคัญ นั้นคือ ธรรมจักรโบราณ ที่มีสภาพสมบูรณ์ทั้งตัวธรรมจักร เสา และฐาน และมีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่แสดงถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาในสมัยทวารวดี รวมทั้งเหรียญโบราณที่มีอักษรอ่านว่า “ศรี ทวารวดีฯ” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อทวารวดี และการแสดงเครื่องประดับลูกปัด และ เครื่องทอง พี่พบในเมืองโบราณอู่ทอง

สิ่งที่น่าดีใจ คือช่วงหยุดยาว มีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์จำนวนมาก ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นบรรยากาศแบบนี้โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของกรมศิลปากรในต่างจังหวัด แสดงว่าการลงทุนปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และ โบราณคดี โดยใช้เทคโนโลยี เพื่อเล่าเรื่องพร้อมกับการแสดงโบราณวัตถุจริง เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจบริบท สภาพสังคม ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ ของเมืองนั้นในยุคสมัยต่าง ๆ ทำให้พิพิธภัณฑ์ยุคใหม่น่ามาเยือนสำหรับคนทุกวัย ขอเอาใจช่วยให้กรมศิลปากร และ ท้องถิ่นต่าง ๆ พัฒนาหรือ ปรับปรุง พิพิธภัณฑ์ของตัวเอง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และ ท่องเที่ยว โดยเน้นเรื่องรามเฉพาะของแต่ละพื้นที่ เราก็จะได้พิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องหลากหลาย ที่น่าไปเยือนอยู่ทั่วประเทศ
