
วันสุดท้ายของปี 2564 ก่อนเข้าปี 2565 ถือใช้จังหวะนี้ สรุปชีวิตการทำงานในปีที่ผ่านมา ประมาณนี้
ทีมบริหารนโยบายท้องถิ่น เป็นความภูมิใจของปีนี้ คือการเป็นทีมที่ช่วยนายกเทศมนตรีของคณะก้าวหน้า ขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ประสานงาน บางเรื่องลงมือเอง เพื่อให้นโยบายต่างๆ เช่น น้ำประปาดื่มได้ ลด/แยกขยะในชุมชน ท่องเที่ยวชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ได้มาตรฐาน ระบบรับเรื่องร้องเรียนฟองดู เว็บไซต์เทศบาลรูปแบบใหม่ เกิดได้จริง และ จะขยายงานเหล่านี้ในระดับ อบต. ต่อไป
ในเนื้องาน จริง ๆ แล้ว คนทำงานจริงเป็นเพื่อนร่วมทีม โชคดีมากได้ทีมที่ดี เดินงานได้ด้วยตัวเอง หน้าที่เรา คือ สร้างสภาพแวดล้อมให้ทีม และ งานเติบโต ออกผลให้ได้ แต่จริงๆ ก็ยังไม่ใช่กัปตันทีม เพราะกัปตันทีมตัวจริงคือธนาธร ที่คอยเป็นคนเร่ง ติดตาม และ เป็นกัปตันทีม ที่ลงรายละเอียดกับงานมาก
งานในพื้นที่ ที่เป็นงานพัฒนา และ งานการเมืองไปด้วยกัน ใช้งานพัฒนานำการเมือง อย่างเรื่องน้ำประปาดื่มได้ หรือ งานสร้างแหล่งท่องเที่ยว เป็นงานเชิงพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คน ในพื้นที่การลงไปทำงานเป็นลักษณะ NGO หรือ SE แต่ขณะเดียวกัน ก็สามารถเชื่อมเครือข่าย มีแนวร่วมในการทำงานมากขึ้น ส่งผลถึงเสียงที่จะสนับสนุนในอนาคต ซึ่งเป็นงานการเมืองที่ตอบจริตของตัวเองด้วย
งานในสภาก็ไม่ได้ทิ้ง ยังเป็นกรรมาธิการ อนุกรรมธิการ ปีนี้ได้ทำงานเป็นอนุกรรมาธิการ ศึกษาผลกระทบและวิธีแก้ปัญหาข่าวปลอม (Fake News) และ เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็น กรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกฏหมายที่จะทำให้หน่วยราชการใช้ดิจิทัลในการทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบ
ปีนี้ยังได้จัดงาน Open Data Day กับงาน event เล็กๆ ถือว่าไม่ว่าจัดเล็กหรือใหญ่ ต้องทำต่อเนื่อง เพื่อใก้เกิดชุมชนด้าน Civic Tech ที่สำคัญคือมีกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่ดี โดยเฉพาะทีมดิจิทัลพรรคก้าวไกล และ กลุ่ม ก้าวGeek
งานที่ปรึกษาโครงการให้กับ SocialTech อาจจะไม่ได้ให้เวลามาก แต่ก็ดีใจ ที่เห็นโครงการที่ทำดำเนินการไปได้ แม้ว่าไม่ได้เข้าไปบริหารด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าปี 2565 จะเป็นการทำงานหนักอีกปี ทั้งพื้นที่งานที่มากขึ้น และ ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อย่างโควิด สถานการณ์การเมือง คงต้องเตรียมร่างกายและจิตใจ ที่ต้องรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา



ไกลก้อง ไวทยการ 31 ธ.ค. 2564